ad

ad

เฮอริเคนชิงร้อย สู้ชีวิตเร่ขายของตลาดนัดส่งตัวเองเรียนต่อ

เฮอริเคนชิงร้อย เร่ขายของตลาดนัด
หลังตกงาน บ้านถูกยึด





หลังหายไปจากหน้าจอทีวีกว่า 3 ปี ล่าสุดชื่อของน้องเฮอริเคน ชิงร้อย ได้กลับมาเป็นที่สนใจอีกครั้ง หลังจากที่พ่อของน้องได้โพสต์เฟสบุค เป็นภาพขณะที่น้องเฮอใส่ชุดนักเรียนนั่งขายของอยู่ในตลาดนัดด้านหน้าวังจันทรเกษม พระนครศรีอยุธยา




เราจึงได้ส่งผู้สื่อข่าวตามไปสัมภาษณ์น้องเฮอริเคนทันที โดยน้องและพ่อได้เล่าว่า ก่อนหน้านี้บ้านที่กรุงเทพ พึ่งถูกยึดไปหลังจากที่ได้รับผลกระทบจากโควิด ทำให้พ่อของน้องตกงานขาดรายได้ จนถึงขั้นไม่มีเงินที่จะผ่อนบ้านต่อ จึงต้องยอมให้บ้านถูกยึด และพากันย้ายมาอาศัยอยู่ที่บ้านเพื่อนของพ่อ ที่เค้าเมตตาให้มาอาศัยอยู่ที่นี่ โดยพ่อของน้องเฮอริเคนมีอาชีพหลักคือเปิดร้านขายของสะสมมือ 2 ที่จะตระเวนไปขายตามตลาดนัดในจังหวัดต่างๆ เพื่อให้มีรายได้ใช้จ่ายในครอยบครัว 




โดยน้องเฮอริเคนได้เล่าว่า ช่วงที่ต้องย้ายออกจากบ้าน มีค่าใช้จ่ายในการขนย้ายของเยอะมากจนถึงกับไม่มีเงินเหลือติดตัวเลย ไม่มีแม้เงินจะซื้อข้าวกิน แต่น้องเฮอและพ่อก็ไม่เคยคิดจะไปขอความช่วยเหลือจากพี่ๆแก๊งสามช่า โดยให้เหตุผลว่าเกรงใจพี่เค้า ยอมที่จะอดข้าว จนทำให้น้องเฮอน้ำหนักลดไปเกือบ 10 กิโลเลยทีเดียว 



แต่ต่อมาก็ได้รับความช่วยเหลือจากเพิ่อนของพ่อ ที่ช่วยแบ่งของในร้านให้น้องเฮอกับพ่อเอามาขายตามตลาดนัด ทำให้พอมีรายได้เพิ่มขึ้นจนถึงปัจุจุบัน เฮอริเคน ในวัย 13 ปี เล่าให้ฟังว่าในวันที่มีตลาดนัดตอนเช้า เค้าจะต้องตื่นตั้งแต่ตี 3 เพื่อเตรียมตัวออกมาจองล็อกและตั้งร้านเพราะถ้ามาสายล็อกจะเต็ม น้องตื่นเช้าแบบนี้จนเป็นเรีื่องปกติ และในวันหยุด น้องก็จะมานั่งช่วยพ่อขายของและดูแลน้องสาวไปด้วย เรียกได้ว่าน้องเฮอริเคนเป็นเด็กที่น่ายกย่องมากๆ ที่น้องไม่เคยบ่นเหนื่อย บ่นร้อน หรือไม่อายที่จะมานั่งขายของในตลาด น้องบอกว่าที่ผ่านมาพ่อเหนื่อยกว่าเฮอเยอะ ในวันที่เฮอไปโรงเรียนพ่อก็ไปขายของ หาเงินมาใช้จ่ายในบ้านตอนนี้เฮอโตแล้ว ก็เลยอยากจะช่วยพ่อให้มากที่สุด 
เฮอยังได้เล่าว่า ชีวิตในวันนี้ต่างจากชีวิตในช่วงที่มีชื่อเสียงมาก เพราะในตอนนั้นมีเงินอยากกินอะไรก็ซื้อกินได้โดยไม่ต้องกลัวเงินหมด แต่พอถึงวันนี้ กินทุกอย่างที่อยากกินไมใ่ด้เพราะมีค่าใช้จ่ายอื่นๆรออยู่ แต่เฮอก็กลับมองว่าความลำบากนี้กลายเป็นแรงผลักดันให้น้องฮึดสู้ น้องตั้งใจจะนำเงินที่ได้จากการขายของส่งตัวเองเรียนจนจบ จะได้มีงานที่มั่นคงทำ ถึงวันนั้นพ่อและน้องสาวจะได้ไม่ต้องลำบากอีกต่อไป 




ท่านผุ้ชมสามารถติดตามบทสัมภาษณ์เต็มๆของน้องเฮอริเคน อดีตตลกสู้ชัวิตได้ที่ลิงค์ด้านล่างนี้นะคะ



 หรือถ้าอยากจะติดตามและส่งกำลังใจให้กับน้อง ก็สามารถเข่้าไปที่เฟสบุคส่วนตัวของน้อง
ที่ลิงค์นี้ได้เลยนะคะ
 https://www.facebook.com/profile.php?id=100025445076792

เราเชื่อค่ะว่าคนที่ไม่ย่อท้อ อนทนต่อสู้กับความยากลำบากอย่างน้องเฮอซักวันจะต้องมีชีวิตที่ประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน ทางรายการขอเป็นกำลังใจให้น้องเฮอริเคนนะคะ 

ภาพประกอบและเขียนข่าวโดย
นภคปภา ลำเจียก
และภาพประกอบจาก Facebook 
น้องเฮอริเคน กลิ่นขจร

แอน ทองประสม นางเอกสู้ชีวิต

แอน ทองประสม นางเอกสู้ชีวิต ในวัยเด็กเคยยากจนมากถึงขั้นไม่มีเงินซื้อรองเท้าแตะ แต่เธอก็ใช้ความสามารถ นำพาตัวเองมาสู่ความสำเร็จได้ในที่สุด




หากจะกล่าวถึงชื่อของ แอน ทองประสม หลายคนคงจะรู้จัก เธอในฐานะเจ้าหญิงแห่งวงการบันเทิง และในบทบาทของการเป็นผู้จัดละครซึ่งน้อยคนจะรู้ว่า กว่าเธอจะมีวันนี้ ในวัยเด็กเธอต้องพบเจอกับความลำบากที่สุดในชีวิต


โดยสาวแอน ทองประสม เคยเปิดใจถึงชีวิตในวัยเด็กว่า เธออยูกับยายที่มีฐานะยากจนมาก มีรายได้จากการเก็บผักขาย หากวันที่เก็บผักไม่ได้ ก็ต้องไปรับจ้างล้างจานในโรงเรียน เพื่อแลกกับได้กินข้าวฟรี ในตอนนั้นสิ่งนึงที่ทำให้เธอได้รู้ว่าเธอยากจนแค่ไหน ก็คือการที่เธอไม่มีแม้แต่รองเท้าใส่ไปเที่ยวเล่น เธอจึง ต้องใส่รองเท้านักเรียนไปเที่ยวห้าง ทำให้เธอรู้สึกอายที่ไม่มีรองเท้าสวยๆใส่เหมือนคนอื่น พอยายเห็นว่าหลานอายที่จะต้องใส่รองเท้านักเรียนไปเที่ยว คุณยายจึงสละรองเท้าตัวเองให้เธอใส่ ส่วนยายยอมเดินเท้าเปล่าแทน ซึ่งรองเท้าของยายคู่นี้ ยายจะใส่เฉพาะในโอกาสพิเศษ เท่านั้น


หลังจากเรียนจบ ป.6 และจะขึ้นชั้น ม.1 สอบติดที่ฉรงเรียนนึง แต่ต้องใช้เงินมอบตัว 700 บาท ทำให้เธอต้องหยุดเรียนไปปีหนึ่ง เพื่อไปรับจ้างเป็นพนักงานโรงงานห่อท๊อฟฟี่ เพื่อหาเงินเป็นค่าเทอมส่งตัวเองเรียนต่อ

อีกหนึ่งเรื่องราวที่ แอน ทองประสม ได้เคยโพสต์ใน IG ส่วนตัว เธอเล่าถึงชีวิตในวัยเด็กว่า "อยู่ ป.6 เรียนโรงเรียนวัดได้เงินไปกินโรงเรียนวันละ 10 บาท รวมค่ารถเมล์ ค่าขนมไม่พอกิน รับจ้างครูล้างชามก๋วยเตี๋ยวแลกกับได้กินมื้อเที่ยงที่โรงเรียนฟรี ชุดนักเรียนซื้อใหม่บ้าง รอขอชุดใช้แล้วจากรุ่นพี่บ้าง รอรัฐบาลแจกบ้าง รองเท้าแตะมีคู่เดียวแบ่งกันใส่กับยาย ถ้าวันนี้แอนใส่ยายจะเดินเท้าเปล่า แต่แอนก็มีความสุขกับชีวิตในตอนเด็กนะคะ"

" ต้องขอบคุณยายที่เลี้ยงมาแบบ อดบ้าง มีบ้าง อยากได้อะไรก็ต้องรู้จักรอ อยากได้ของเล่นต้องหาเงินเอง ความลำบากเหล่านี้เป็นวัคซีนความอดทนที่ดี ที่ทำให้เราเผชิญโลกภายนอกได้เองในวันที่ยายไม่อยู่แล้ว ที่เล่าให้ฟังแค่จะบอกว่า ขอให้เด็กที่พร้อมและมีโอกาสดีๆ ในชีวิตอยู่แล้ว เป็นเด็กดี ตั้งใจเรียนให้เต็มที่นะคะ เพราะมีเด็กที่ลำบากกว่าเราอีกเยอะค่ะ สุขสันต์วันเด็กนะคะ "


โดยต่อมาเธอได้เข้าสู่วงการบันเทิง ทำให้เธอมีชีวิตที่ดีขึ้นเรื่อยมา ทำให้เธอไม่ลืมที่จะกลับไปที่ชุมชนที่เธอเคยอยู่ในวัยเด็ก นำอาหารและของใช้ต่างๆไปมอบให้กับคนในชุมชน และเธอไม่ลืม ลุงสมถะ คุณลุงที่มีพระคุณกับเธอที่จะคอยรับส่งเธอไปโรงเรียนตั้งแต่เด็ก เธอเอาของไปฝากคุณลุงมากมายและคอยดูแลความเป็นอยู่แกมาตลอดไม่เคยขาด จนถึงปัจจุบัน

เรื่องราวชีวิตของสาวแอน ทองประสม ถือเป็นต้นแบบของผู้ที่มีต้นทุนชีวิตที่ติดลบ แต่ไม่ย่อท้อต่อปัญหาต่างๆใช้ความสามารถนำพาให้ตัวเอง เข้าสู่วงการบันเทิง ได้มีชีวิตที่ประสบความสำเร็จได้ในปัจจุบัน

ชอบคุณภาพจาก IG  annethong

มรสุมชีวิตเฮอริเคนชิงร้อยไร้งาน บ้านถูกยึด

 

มรสุมชีวิตเฮอริเคนชิงร้อย

ชีวิตล่าสุดตลกเด็กซุปตาร์

ไร้งาน บ้านถูกยึด


หายหน้าไปจากหน้าจอทีวีกว่า 5 ปี สำหรับนักแสดงตลกเด็กที่แจ้งเกิดจากรายการ ชิงร้อยชิงล้าน ที่แฟนๆจะรู้จักเค้าในนาม เฮอริเคนชิงร้อย

หรือ กรคจิน กลิ่นขจร ที่ปัจจุบันเกือบจะโตเป็นหนุ่มแล้ว  ที่ภายหลังจากที่หายหน้าไปจากรายการแฟนๆก็พากันคิดถึง และตั้งคำถามว่าน้องเฮอหายไปไหน เมื่อช่วงต้นปี 2565 ทางเรามีโอกาสได้ติดต่อขอสัมภาษณ์น้องและคุณพ่อ ถึงสาเหตุที่หายหน้าไปจากวงการ

จึงได้ทราบว่า สาเหตุที่น้องวเฮอไม่ได้แสดงในรายการชิงร้อยชิงล้านต่อ เนื่องจากในช่วงที่เกิดการแพร่ระบาดโควิด ทางบริษัทจำเป็นต้องปรับลดผู้เข้าร่วมถ่ายทำในสตูดิโอลง อีกทั้งน้องเฮอยังเด็กไม่สามารถฉีดวัคซีนได้ จึงเสี่ยงหากติดเชื้อ จึงทำให้น้องเฮอต้องพักงานไปเรื่อยมา



ไม่เพียงแค่พักงานในรายการเท่านั้น น้องเฮอต้องเผชิญกับมรสุมชีวิตครั้งใหญ่กับการที่ คุณแม่ตัดสินใจแยกทางกับคุณพ่อ ทำให้ทั้งพ่อและน้องเฮอต้องอยู่กันลำพัง ทำให้คุณพ่อต้องดูแลลูกทั้ง 3 คน ( พี่สาวคนโต น้องเฮอและน้องสาวสคนเล็ก ) เพียงลำพัง

ซึ่งในช่วงที่โควิดระบาดแรกๆ คุณพ่อก็ถูกพักงานจากการเป็นนักดนตรีแบ็คอัพในรายการทีวีด้วยเช่นกัน ส่งผลให้ครอบครัวขาดรายได้ แต่พ่อเองก็ไม่ยอมแพ้ หันมาเพาะไม้ด่างขายผ่านออนไลน์ เพื่อเป็นรายได้พิเศษอีกทางหนึ่ง

ชมคลิปสัมภาษณ์ได้ที่นี่ 


ในช่วงนั้นเองทางรรายการได้ติดต่อขอสัมภาษณ์น้องเฮอและคุณพ่อเพื่อให้น้องได้เล่าถึงปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้น ทำให้ต่อมา ทางคุณเท่งเถิดเทิง และคุณโหน่งชะชะช่า ติดต่อมาหาน้องชวนไปถ่ายรายการ และยินดีที่จะช่วยเหลือหากน้องเฮอและคุณพ่อขาดเหลืออะไร และยังมีนักแสดงรุ่นพี่ที่ทำช่อง YOUTUBE อีกหลายท่านเชิญน้องไปออกรายการ


แต่แม้ว่า
กระแสของน้องจะดูกลับมาอีกครั้ง แต่ก็ยังไม่มากพอที่จะทำให้น้องได้มีงานมากพอ ทำให้สุดท้ายบ้านของน้อง ถูกยึดน้องและครอบครัวต้องย้ายไปเช่าบ้านอยู่ จนกว่าในอนาคตหากมีงานมากขึ้น น้องก็คงจะมีเงินซื้อบ้านหลังใหม่เป็นของตัวเองได้อีกครั้ง  แต่ล่าสุดน้องเฮอก็ได้มาเปิดเพจและช่องใน YOUTUBE เพื่อทำรายการสนุกๆ ให้แฟนๆได้ติดตามชมกัน แฟนๆของน้องก็สามารถ ไปติดตามกันได้ตามลิงึค์ที่ขึ้นไว้นะคะ


สุดท้ายทางรายการ ขอเป็นกำลังใจให้น้องเฮอริเคนชิงร้อย และครอบครัวผ่านพ้นปัญหาต่างๆในชีวิตและกลับมามีผลงานสนุกๆให้แฟนๆได้ชมกันอีก ในอนาคตนะคะ


ติดตามน้องเฮอริเคนได้ที่

FACEBOOK   น้องเฮอร์ริเคน    กลิ่นขจร

YOUTUBE    เฮอริเคน แฟมิลี่ แชนแนล


รียบเรียง ถ่ายภาพ คลิปรายการสัมภาษณ์

เจ้าของลิขสิทธิ์โดย

YOUTUBE  TALK OF THETUBE

FACEBOOK TRUE KIDS THAILAND

TIKTOK TALK OF THETUBE


เปิดชีวิตจริงน้อง ลีโอ ศิวกร หนุ่มน้อยลูกอีสานสู้ชีวิต

 เปิดชีวิตจริงน้อง ลีโอ ศิวกร หนุ่มน้อยลูกอีสานสู้ชีวิต ใช้ความสามารถด้านการแสดง มาตามหาความฝัน จนสุดท้าย ได้เป็นนักแสดงในละคร มนต์รักหนองผักกะแยง ได้ในที่สุด ส่งให้เค้าช่วยปลดหนี้ให้พ่อแม่ได้ในที่สุด น่าชื่นชมจรงๆค่ะ #บักเขียว #มนต์รักหนองผักกะแยง #ณเดชน์










วัดตะโก หลวงพ่อรวย สุดยิ่งใหญ

 วัดตะโก หลวงพ่อรวย สุดยิ่งใหญ 



  
สวัสดีค่ะวันนี้พาทุกท่านมาที่ วัดตะโก หรือวัดหลวงพ่อรวย จ.พระนครศรีอยุธยากันนะคะ วันนี้พาทุกท่านมากราบ หลวงพ่อรวยองค์ใหญ่ ที่ประดิษฐานอยู่ ณ อนุสรณ์สถาน 100 ปี ชาตกาล พระมงคลสิททาจารย์ หลวงพ่อรวย ปาสาทิโก กันนะคะ 
โดยเมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ได้มีพิธี อัญเชิญ องค์หลวงพ่อรวยองค์ใหญ่ ขึ้นประดิษฐานอยู่บนอาคาร อนุสรสถาน โดยหลวงพ่อรวยองค์ใหญ่นี้สร้างขึ้นจากแรงศรัทธาของเหล่าพุทธศาสนิกชน ที่เดินทางมากราบขอพรจากหลวงพ่อรวยที่วัดตะโกแห่งนี้นะคะ คาดว่าถ้าสร้างแล้วเสร๋จจะต้องสวยงามอย่างแน่นอนเลยค่ะ 


โดยหลวงพ่อรวย ท่านเป็นพระเกจิอาจารย์ ชื่อดังเมื่อครั้งที่ท่านมีชีวิต ท่านมีชื่อเสียงในด้านการสร้างวัตถุมงคลที่มีความศักดิ์สิธิ์มากก ด้วยพุทธคุณมากมายหลายด้าน และหลวงพ่อก็ มีจริยวัตรงดงาม เป็รพระนักพัฒนานำความเจริญรุ่งเรืองมาสู่ วัดตะโก ตลอดหลายปี ทำให้พุทธศาสนิกชนต่างศรัทธา กันเป็นอย่างมาก 
 
ต่อมา เมื่อปี 2560 พระครูสุนทรธรรมนิวิฐ ( หลวงพ่อรวย ปาสาทิโก ) ได้มรณภาพลง สิริอายุ 95 ปี ) ซึ่งเป็นที่อัศจรรย์มากๆที่สรีระสังขารของหลวงพ่อไม่เน่าเปื่อย  ทางลูกศิษย์ อัญเชิญสรีระสังขารของหลวงพ่อ มาเก็บรักษาไว้ภายในหีบแก้ว เพื่อให้เหล่าลูกศิษย์และผู้ที่มีจิตศรัทธาได้เข้ามากราบไหว้ เดี๋ยวเราจะพาไปกราบภายในพระมหาเจดีย์กันนะคหลังจากผ่านจุดคัดกรองมาแล้วเราก็จะได้พบกับความสวยงามของ  พระมหาธาตุ





เจดีย์ปาสาทิโก ที่มีขนาดสูงและใหญ่ สีทองสุดงดลาม ตั้งอยู่อยู่โดดเด่นกลาง วัดตะโก  โดยเจดีย์จะมี 2 ชั้น ชั้นล่างเป็นฐาน ห้องโถง ที่ภายในประดิษฐานหีบแก้วบรรจุสรีระสังขาร ของหลวงพ่อรวย โดยเปิดให้ประชาชนได้เข้มากราบขอพรส่วนชั้นบนจะเป็นเจดีย์ค่ะ ที่มีระฆัง 4 ด้าน เชื่อว่าผู้ที่ได้มาตีระฆัง จะสมหวังในทุกสิ่งที่ปรารถนา ต่อมาก็เข้ามากราบภายในองค์พระเจดีย์ที่ประดิษฐานพระพุทธรูปหยกสุดสวยงาม เพื่อเป็นสิริมงคล อีกด้วยนะคะ หลังจากลงมาจากชั้น 2 แล้ว




ทุกคนที่มาต้องไปลืมมากราบขอพรและถ่ายภาพกับหุ่นขี้งผึ้งหลวงพ่อรวย ที่ได้ปั้นจำลองรูปเหมือนองค์จริงของหลวงพ่อ ให้ศิษย์ยานุสิสได้กราบไหว้กันอีกด้วยนะคะ  ถ้าหากท่านผู้ชมได้เดินทางมาจ.พระนครศรีอยุธยา ก็อย่าลืมแวะมากราบขอพร หลวงพ่อรวยกันนะคะ 

โก้ นฤเบศร์ จากพระเอกดังสู่พ่อค้าขายผัดไทสู้ชีวิต

 

จากพระเอกดังยุค 90

 สู่พ่อค้าขายผัดไทสู้ชีวิต



หากจะกล่าวถึงพระเอกใน ยุค 90 คง หนึ่งในนั้นต้องมีชื่อ ของโก้ นฤเบศร์ จินปิ่นเพชร   โดยเค้าเข้าวงการบันเทิงจากการถ่ายนิตยสารชื่อดังหลายเล่ม ต่อมาเค้าก็แจ้งเกิดจาก  ละครเวลาในขวดแก้ว  หลังจากโลดแล่นในวงการบันเทิงมากว่า 10 ปี  ต่อมางานก็เริ่มลดลง  โดยเค้าเข้าใจว่าในวงการบันเทิง มีนักแสดงหน้าใหม่เข้ามาแทนที่รุ่นเก่าเรื่อยๆ  เค้าจึงเลือกที่จะผันตัวไปทำงานเบื้องหลัง โดยทำหน้าที่ผู้ช่วยผู้กำกับอยู่ระยะหนึ่ง   ประกอบกับเค้าได้พบรักกับนักแสดงสาว และได้ตกลงใช้ชีวิตคู่ร่วมกัน  ต่อมางานเบื้องหลังก็ไม่ได้มีต่อเนื่อง   ทำให้เค้ามองว่ารายได้ไม่แน่นอน บางเดือนที่ไม่มีงานทำให้ไม่มีรายได้  เค้าจึงจัดสินใจหันมาเปิดร้านขายอาหารเพื่อความมั่นคง ในการทำหน้าที่หัวหน้าครอบครัว โดยเค้านำเงินมาลงทุนทำธุรกิจด้านอาหาร ทั้งเปิดร้านอาหาร ร้านก๋วยเตี๋ยว ก็พอจะไปได้เรื่อยๆ และล่าสุดเค้าเปิดร้านขายผัดไทและหมี่โคราช โดยจะตระเวนออกร้านตามงานต่างๆ โดยมีภรรยาและลูกๆ ตามไปช่วยกันขายของทุกที่ แม้ว่างานค้าขาย หลายคนอาจจะมองว่า เป็นงานหนักและเหนื่อย ถ้าเทียบกับงานในวงการ แต่เค้ามองว่า งานที่ทำแล้วได้เงิน ทุกงานถือเป็นงานที่มีเกียรติ และไม่เคยอายที่จะบอกใครๆว่าเค้าเป็นพ่อค้าขายผัดไท  เค้าทำอาชีพสุจริต ไม่ได้ไปขอใครกิน หรือทำให้ใครเดือดร้อน และที่สำคัญคือ เค้าสามารถนำพาครอบครัวให้มีชีวิตที่อบอุ่น มีความสุข มีกินมีใช้ มีเงินส่งลูกให้ได้เรียนในโรงเรียนดีๆ ถือว่าดีที่สุดแล้ว

 


ในส่วนของงานในวงการ ถ้าในอนาคตมีงานที่ผู้ใหญ่มองว่า เหมาะกับเราและเวลาว่างตรงกัน ก็อาจจะมีโอกาสกลับมามีผลงานให้ได้ชมกันอีก

 


ถือได้ว่าชีวิตของ โก้ นฤเบศร์ จินปิ่นเพชร เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของคนที่ไม่ยึดติดกับชื่อเสียงเงินทอง ยอมรับความเปลี่ยนแปลง และใช้ชีวิตต่อไปได้อย่างมีความสุข น่าชื่นชมจริงๆ

เขียนเรื่องโดย นภคปภา

ขอบคุณภาพประกอบจาก  คุณโก้ นฤเบศร์ จินปิ่นเพ็ชร

ad